ในประเทศเคนยา ต้นไม้เปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์แห่งความยุติธรรม ซึ่งชาวเคนยานั้นให้ความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด สาเหตุนี้เองทำให้ วังการี มาเทอี เติบโตและผูกพันกับต้นไม้และธรรมชาติเป็นอย่างมาก
ชีวิตของเธอแตกต่างจากเพื่อนร่วมรุ่นที่โตมาด้วยกันจากการได้รับการศึกษาที่สูงกว่า เธอเรียนจบปริญญาตรีและโทด้านชีววิทยาจากสหรัฐอเมริกา ในปี 1967 เธอคว้าปริญญาเอก ด้านกายวิภาคและสรีระวิทยาของสัตว์เลี้ยง จากมหาวิทยาลัยจีเซน ประเทศเยอรมนี จากนั้นเธอเข้าทำงานเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยไนโรบี (เมืองหลวงเคนยา) และเข้าพิธีแต่งงาน
วังการี มีโอกาสลงพื้นที่ไปทำงานวิจัยเกี่ยวกับไข้วัวในชนบท จนเธอพบว่าเกิดจากการเสียสมดุลทางธรรมชาติ ที่ชาวบ้านพากันลักลอบตัดต้นไม้โดยไม่ได้มีการวางแผนปลูกพืชขึ้นมาทดแทน ทำให้สัตว์เลี้ยงขาดแหล่อาหารที่จะหล่อเลี้ยงชีวิต ซึ่งภายหลังเธอทราบมาว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจากการสนับสนุนของพรรครัฐบาลยุคล่าอาณานิคม เธอจึงตัดสินใจที่จะเรียกร้องและกระตุ้นให้ชาวเคนยาหลายร้อยคนออกมาแสดงพลังปกป้องผืนธรรมชาติเอาไว้ ด้วยการปลูกต้นไม้ 7 ต้น ที่เปรียบเสมือนเข็มขัดสีเขียวเส้นแรก ซึ่งภายหลังถูกเรียกว่า ‘The Green Belt Movement’
‘The Green Belt Movement’ ภายใต้การนำของวังการี มีอิทธิพลอย่างมากต่อการต่อสู้และคัดค้านอำนาจของทุนนิยมที่จะเข้ามารุกรานพื้นที่สีเขียว เพื่อเปลี่ยนแปลงเป็นตึกระฟ้าจำนวนมาก จนรัฐบาลหมายหัววังการีว่าเป็นศัตรูของพวกเขา อย่างไรก็ตามความดียังคงเข้าข้างในชัยชนะของเธอเสมอมา
ในปี 2003 วังการี สมัครลงเลือกตั้งในนามพรรค National Rainbow Coalition ซึ่งเป็นการร่วมตัวกันของพรรคฝ่ายค้านขนาดเล็ก สุดท้ายพรรคของเธอชนะการเลือกตั้งและเธอได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของเคนยา ไปจนถึงปี 2005
ผลงานที่โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชน ทำให้ วังการี มาเทอี ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2004 แถมเธอยังเป็นผู้หญิงเชื้อสายแอฟริกันคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้อีกด้วย
หมายเหตุ: วังการี มาเทอี ถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2011 จากโรคมะเร็ง ที่เมืองไนโรบี ประเทศเคนยา
[ที่มา: http://www.greenbeltmovement.org/wangari-maathai
หนังสือ: 50 Inspiration Stories from Celebraties]